ไปเที่ยว คุนหมิง และ ถ่างเตี้ยน ที่ประเทศจีนทริปนี้ เราก็ยังเลือกเดินทางไปกับบริษัททัวร์ โดยโปรแกรมทัวร์ที่เลือกในทริปนี้มี 2 สถานที่ เป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ ภูเขาหิมะเจี้ยวจื่อ และ เทศกาลชมดอกซากุระบาน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเดือนมีนาคม ในการเดินทางครั้งนี้เราจะได้รับประสบการณ์ที่ตื่นเต้นในการนั่งกระเช้าลอยฟ้าและปีนภูเขาหิมะในความสูงระดับเกือบ 4 พันเมตร และเปลี่ยนไปเดินชมดอกซากุระที่กำลังบานสะพรั่งอย่างสวยงาม โดยมีรายละเอียดต่างๆของโปรแกรมทัวร์ดังต่อไปนี้
สิ่งที่มีให้ในแพ็คเกจทัวร์
- ตั๋วเครื่องบิน Kunming Airlines ไป-กลับ (มีอาหารหรือของว่าง) พร้อมภาษีสนามบิน 2 แห่ง
- กระเป๋าเดินทางโหลดใต้ท้องเครื่องจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลกรัม/ท่าน ไม่สามารถแชร์น้ำหนักกันได้ สัมภาระขึ้นบนเครื่อง น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม/ท่าน
- ประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทางวงเงินท่านละ 1 ล้านบาท
- โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว ทุกคืน
- มื้ออาหารที่ภัตตาคารจำนวนตามระบุ
- รถบัสนำเที่ยวตลอดทริปการเดินทาง
- กระเช้าลอยฟ้าและค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆตามระบุ
- กาแฟ โอวัลติน โจ๊ก แบบซองของไทย มีให้มื้อเช้าสำหรับผู้ที่อยากกิน
- รวมขนมคบเคี้ยว 1 แพ็ค/ท่าน และ น้ำดื่มบนรถบัสนำเที่ยววันละ 1 ขวด/ท่าน
สิ่งที่ต้องจัดเตรียมไปเอง
- หนังสือเดินทางต่างประเทศ (Passport)
- ชุดเสื้อผ้ากันหนาวและรองเท้าใส่สบาย
- ยารักษาโรคประจำตัว อาจเพิ่มยาแก้เมารถและแก้แพ้ความสูงด้วย
- แลกเงินสด (เงินหยวน) อย่าหวังน้ำบ่อสุดท้ายมาแลกเงินที่ซูเปอร์ริชสนามบิน
- สมัคร Truemoney Wallet (สำหรับชำระเงินแทนเงินสด)
- สมัคร Alipay (สำหรับชำระเงินแทนเงินสด)
- สมัครแพ็คเกจโรมมิ่งต่างประเทศ เพื่อใช้บริการอินเตอร์เน็ตโดยไม่ถูกปิดกั้น
- ทิชชูเปียก (ห้องน้ำไม่มีสายฉีดน้ำชำระแม้ในโรงแรมก็ตาม)
- หน้ากากอนามัย (สำหรับผู้แพ้กลิ่นบุหรี่)
- ที่ล็อคกระเป๋าเดินทาง ป้องกันกระเป๋าเปิดระหว่างเดินทาง
- แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ขนาดไม่เกิน 20,000 mAH และ 110W โดยมีตัวหนังสือระบุไว้อย่างชัดเจน อย่าเอาแบบชำรุดไป เช่น มีลักษณะบวม เป็นต้น และแบตเตอรี่สำรองให้ถือติดตัวขึ้นบนเครื่องเท่านั้น
วันที่ ⓵ สนามบินสุวรรณภูมิ⤏สนามบินคุนหมิงฉางสุ่ย⤏คุนหมิง
ไกด์ทัวร์นัดพบลูกทัวร์เวลา 17:00 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ผู้โดยสารขาออก หน้าเคาน์เตอร์เช็คอินแถว U (ประตู 10) เจ้าหน้าที่ต้อนรับสนามบินของ Let’s Go Group ทำการแจกเอกสารซึ่งประกอบไปด้วย ป้ายชื่อห้อยกระเป๋าเดินทาง โปรแกรมทัวร์ และใบตรวจคนเข้าเมืองที่ต้องใช้เข้าประเทศจีน ซึ่งได้กรอกข้อมูลไว้ให้เราแล้ว (เหลือแค่เราลงลายมือชื่ออย่างเดียว) จากนั้นไกด์ทัวร์ก็จะมาแนะนำตัวและช่วยอำนวยความสะดวกในการเช็คอินให้กับเรา
เราออกเดินทางจาก สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เวลา 20:00 น. ถึง สนามบินนานาชาติคุนหมิงฉางสุ่ย ประเทศจีน เวลา 23:20 น. ตามเวลาท้องถิ่นใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที เป็นไปตามกำหนดการ โดยระหว่างทางบนเครื่องสายการบิน Kunming Airlines มีอาหารและน้ำดื่มแจกให้ด้วย เมื่อถึงสนามบินปลายทางแล้ว ให้เราทำการปรับเวลานาฬิกาให้เร็วขึ้น เพราะเวลาที่คุนหมิงเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
หลังจากเราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว จะพบกับไกด์จีนซึ่งจะยืนรอรับคณะทัวร์ที่โถงผู้โดยสารขาเข้า จากนั้นก็พาขึ้นรถบัสนำเที่ยวใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที ไปยังโรงแรม Kunming HNA Flight Hotel ซึ่งเป็นที่พักที่อยู่ใกล้สนามบินและเป็นที่พักในคืนแรกของเรา ไกด์ทัวร์จะเก็บพาสปอร์ตของลูกทัวร์ทุกคนไว้ เพื่อใช้ในสถานที่ต่างๆตลอดระยะเวลาทริปนี้
ปรับเปลี่ยนโปรแกรมเดินทางใหม่
เนื่องจากทัวร์คณะเรามีผู้อาวุโสเป็นส่วนใหญ่ อายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70 ปี ผู้อาวุโสที่มีอายุสูงสุดอยู่ที่ 88 ปี ไกด์ทัวร์จึงได้ปรับเปลี่ยนกำหนดการเดินทางของวันที่ 2–4 ใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับคณะทัวร์อาวุโสของเรา โดยยังคงสถานที่ท่องเที่ยวตามโปรแกรมเดิมไว้ทุกแห่ง ซึ่งถือว่าได้ผลลัพธ์ออกมาดีทีเดียว เริ่มกันตั้งแต่พรุ่งนี้เลย
วันที่ ⓶: ตำหนักทอง⤏สวนน้ำตกคุนหมิง⤏เมืองโบราณกวนตู้⤏เมืองถ่างเตี้ยน⤏ไร่สตรอเบอรี่
เช้าวันแรกที่งัวเงียในประเทศจีนเพราะนอนดึกหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา กินอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ที่โรงแรมเสร็จแล้ว เราก็ทำการเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เพราะเราจะไม่กลับมานอนที่นี่อีกแล้ว พอถึงเวลา 08:00 น. เราก็ล้อหมุนออกเดินทางไปยังที่เที่ยว ตามโปรแกรมทัวร์ใหม่ที่เพิ่งปรับเปลี่ยนมาสดๆร้อนๆ
🕤09:30–10:45น. ตำหนักทองจินเตี้ยน (昆明金殿; The Golden Temple)
สถานที่ท่องเที่ยวแรกในเมืองคุนหมิงของคณะทัวร์เราก็คือ ตำหนักทองจินเตี้ยน ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา Mingfeng หรือ Singing Phoenix Hill ทางด้านทิศตะวันออกของเมืองคุนหมิง ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์หมิง เคยเป็นที่พักของอู๋ซันกุ้ยขุนศึกผู้ขายชาติ และนางงามเฉินหยวนหยวน
❝ ประตูสวรรค์สาดแสงสว่างไสว
บริสุทธิ์สดใสสู่สายตากว้างอนันต์ ❞
ตำหนักทองหลังนี้มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส สูง 6.7 เมตร กว้าง 6.15 เมตร ส่วนประกอบภายในทั้งหมดทำจากทองแดง ทั้งคาน เสา ผนัง หลังคา โต๊ะแท่นบูชา แผ่นป้ายโลหะ แม้แต่ส่วนประกอบไม้เลียนแบบ ก็ทําจากการหล่อหรือตีขึ้นรูปทองแดง โดยมีน้ำหนักรวมทั้งหมด 200 กว่าตัน เปล่งประกายดุจดั่งทองคำสีทองอร่ามเมื่อต้องแสงแดด นับว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างทองแดงที่ใหญ่สุด และสมบูรณ์ที่สุดของจีนแห่งหนึ่ง
🕚11:00–12:00น. สวนน้ำตกคุนหมิง (昆明瀑布公园; Kunming Waterfall Park)
สวนน้ำตกคุนหมิง ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าแม่น้ำหนิวหลานกับแม่น้ำปันหลง ในเขตซานสุ่ยใหม่ทางตอนเหนือของคุนหมิง ซึ่งน้ำจากสวนน้ำตกคุนหมิงนี้จะไหลลงไปเติมน้ำให้กับทะเลสาบเตียนฉือ น้ำจากแม่น้ำหนิวหลานไหลตกลงมาจากความสูงที่ต่างกัน 12.5 เมตร ความกว้างของน้ำตกประมาณ 400 เมตร เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่สวยงามตระการตามาก ด้านหน้าน้ำตกจะมีสะพานชมวิวทอดยาวที่ถูกสร้างอยู่เหนือผิวน้ำ เพื่อให้สามารถชมทิวทัศน์ได้อย่างใกล้ชิด มีการระบุเอาไว้ว่าน้ำตกเทียมแห่งนี้เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ทั้งในด้านความกว้าง ปริมาณน้ำ และขนาด
🕧12:30–13:30น. รับประทานอาหารกลางวัน
🕑14:00–15:00น. เมืองโบราณกวนตู้ (官渡古镇; Guandu Ancient Town)
เมืองโบราณกวนตู้ เป็นจุดหมายปลายทางที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าและหัตถกรรมตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงและชิง มีจุดเด่นเชิงวัฒนธรรมมากมาย เช่น วัดโบราณ วัดพระเจดีย์ อาคารประวัติศาสตร์ และรสชาติอาหารท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีสถานที่เล่นและเรียนรู้มรดกวัฒนธรรมแบบสัมผัสได้ กิจกรรมพื้นบ้าน และร้านค้าเชิงพาณิชย์ที่หลากหลาย เมืองนี้สะดวกต่อการเดินทางและเปิดให้เข้าชมฟรี แต่ผู้เข้าชมอาจรู้สึกถึงบรรยากาศเชิงพาณิชย์ที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งอาจลดความดั้งเดิมของเมืองโบราณไปบ้างในบางมุมมอง
🕔17:00–17:40น. ไร่สตรอเบอรี่
เที่ยวชมเมืองโบราณกวนตู้เสร็จแล้วเราก็เดินทางต่อ ออกจากเมืองคุนหมิงไปยังเมืองถ่างเตี้ยนใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อมายังไร่สตรอเบอรี่ที่อยู่ห่างจากโรงแรมที่เราจะเข้าพักในคืนนี้ประมาณ 4 กิโลเมตร ระหว่างเดินชมสวนสตรอเบอรี่เราสามารถเด็ดชิมจากต้นได้ หากอยากกินก็สามารถเลือกซื้อไปได้ แต่ที่นี่ไม่มีบริการแพ็คไปส่งที่สนามบินนะ
🕕18:00น. รับประทานอาหารเย็น และเข้าที่พัก
เย็นนี้เราเข้าพักที่โรงแรม Wangtong International Garden Hotel และรับประทานอาหารเย็นที่นี่ คืนนี้เราต้องรีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า
วันที่ ⓷: ภูเขาหิมะเจี้ยวจื่อ⤏คุนหมิง⤏จัตุรัสม้าทองและไก่มรกต
วันนี้เราต้องตื่นนอนแต่เช้าเพราะจะต้องขึ้นภูเขาสูง ที่อยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 60 กิโลเมตร และเหมือนกับเช้าเมื้อวานพอเรากินอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ที่โรงแรมเสร็จแล้ว เราก็ทำการเช็คเอาท์โรงแรมและล้อหมุนออกเดินทางประมาณ 7 โมงเช้า
🕣08:30–09:20น. กระเช้าลอยฟ้าภูเขาเจี้ยวจื่อ (ขาไป)
เราใช้เวลาเดินทางจากที่พักประมาณ 1 ชั่วโมง ก็มาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขตพื้นที่ท่องเที่ยวภูเขาเจี้ยวจื่อเมืองคุนหมิง ที่จุดนี้นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้าสู่พื้นที่ท่องเที่ยวภูเขาเจี้ยวจื่อ โดยวิธีนั่งกระเช้าลอยฟ้าภูเขาเจี้ยวจื่อขนาดใหญ่ ใช้เวลานั่งบนกระเช้าประมาณ 20 นาที ระหว่างทางที่โดยสารอยู่บนกระเช้าลอยฟ้า เราจะได้ชมและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามจากมุมสูง เช่น ทุ่งนาขั้นบันได เป็นต้น
🕤09:40–11:30น. พื้นที่ท่องเที่ยวภูเขาหิมะเจี้ยวจื่อเมืองคุนหมิง (昆明轿子雪山景区; Kunming Jiaozi Snow Mountain Scenic Area)
หลังจากที่ลงจากกระเช้าลอยฟ้าเราก็ขึ้นรถบัสของอุทยานเดินทางต่ออีกประมาณ 15-20 นาที ก็มาถึงจุดท่องเที่ยว เซียะผิงจื่อ ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,530 เมตร จากนี้ไปเราจะขึ้นไปยังความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,850 เมตร โดยนั่งกระเช้าลอยฟ้าชมวิวใช้เวลาประมาณ 5 นาที หรือหากใครไม่อยากเสียเงินขึ้นกระเช้าลอยฟ้าก็สามารถเดินขึ้นไปก็ได้เช่นกัน พอลงจากสถานีกระเช้าลอยฟ้าเราใช้วิธีเดินเท้าต่อไปตามเส้นทางเดินป่าที่ทำด้วยไม้ ระหว่างทางเราจะได้ชมความสวยงามธรรมชาติของ กลุ่มน้ำตกที่แข็งตัวเป็นน้ำแข็ง น้ำแข็งและหญ้าอ่อนปกคลุมบนพื้นดิน ป่าสนที่เหลือแต่กิ่งก้าน เดินประมาณ 320 เมตร ก็ถึงจุดชมวิวบนสะพานข้ามลำธารที่สวยงามมาก จากนั้นจึงเดินกลับเพราะหมดเวลาเที่ยวที่นี่แล้ว
🕛12:00–12:45น. กระเช้าลอยฟ้าภูเขาหิมะเจี้ยวจื่อ (ขากลับ)
🕜13:30–14:30น. รับประทานอาหารกลางวัน
มื้อนี้เรากลับมากินอาหารกลางวันที่ห้องอาหารของ Wangtong International Garden Hotel โรงแรมที่เรานอนเมื่อคืนที่ผ่านมา
🕓16:00–18:00น. ซุ้มประตูม้าทองและซุ้มประตูไก่มรกต (金马碧鸡坊; Jinma and Biji Memorial Arch) และ ถนนคนเดินหนานผิง (南屏步行街; Nanping Pedestrian Street)
หลังจากกลับลงมาจากภูเขาหิมะเจี้ยวจื่อเราก็มุ่งหน้าสู่ จัตุรัสจินปี้ ในเมืองคุนหมิง เพื่อไปเช็คอินกับ ซุ้มประตูม้าทองและซุ้มประตูไก่มรกต ซึ่งมีความสูง 12 เมตร กว้าง 18 เมตร สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์หมิง และมีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบ 400 ปี จากนั้นเราก็ไปเดินซื้อของกันต่อที่ ถนนคนเดินหนานผิง แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังและใหญ่ที่สุดในคุนหมิง มีร้านสินค้าแบรนด์เนมทั้งของจีนและต่างประเทศจำนวนมาก รวมถึงร้าน POP MART ชื่อดังอีกด้วย
🕡18:30น. รับประทานอาหารเย็น และเข้าที่พัก
หลังจากรับประทานอาหารเย็นที่ภัตตราคารแล้ว เราก็เดินทางเข้าพักที่โรงแรม Wilton Hotel Kunming และออกมาเดินเล่นพร้อมหาของกินเล่นรอบๆที่พักก่อนกลับเข้าไปนอน
วันที่ ⓸: สวนสัตว์คุนหมิง(สวนซากุระ)⤏วัดหยวนทง⤏สนามบินคุนหมิงฉางสุ่ย⤏สนามบินสุวรรณภูมิ
เช้าวันสุดท้ายของทริปนี้เราตื่นนอนประมาณ 6 โมงเช้า ใช้เวลาเก็บกระเป๋านานสักหน่อย เพราะเย็นนี้ต้องเดินทางกลับประเทศไทย เลยต้องแพ็คของฝากลงกระเป๋าให้เรียบร้อย วันนี้ไกด์ทัวร์บอกเราว่าจะพาไปชมดอกซากุระ ถ้าใครถ่ายรูปได้ไม่เกิน 100 รูป จะต้องกลับมาที่นี่อีกนะ (ก็ฮาๆกันไป) หลังจากกินอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์และเช็คเอาท์เราก็เดินทางออกจากโรงแรม
🕣08:30–10:00น. สวนสัตว์คุนหมิง (昆明动物园; Kunming Zoo)
ไหนไกด์ทัวร์บอกเราว่าจะไปชมดอกซากุระยังไงแล้วทำไมถึงพามาที่สวนสัตว์คุนหมิง ใช่แล้วครับงานเทศกาลซากุระบานถูกจัดขึ้นที่ สวนซากุระในสวนสัตว์คุนหมิง โดยได้ยึดถือและสานต่อขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมของการชมดอกซากุระบานหยวนทงในเดือนมีนาคมของคุนหมิง ควรมาเที่ยวชมตั้งแต่เช้าเพราะยิ่งสายคนก็จะยิ่งมากและพลุกพล่าน
🕥10:20–11:00น. วัดหยวนทง (圆通寺; Yuantong Temple)
จากสวนสัตว์เราใช้วิธีเดินเท้ามาที่ วัดหยวนทง เพราะอยู่ห่างกันแค่ 250 เมตรเท่านั้นเอง วัดหยวนทงเป็นหนึ่งในวัดพุทธที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในคุนหมิง มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,200 ปี ภายในบริเวณวัดตกแต่งอย่างสวยงามและร่มรื่น ที่กลางลานมีสระน้ำขนาดใหญ่ มีสะพานข้ามไปสู่ศาลาแปดเหลี่ยมที่อยู่กลางสระ ด้านหลังวัดเป็นอาคารสร้างใหม่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระพุทธชินราช (จำลอง) ซึ่งพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 15 ของไทยให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้
🕦11:40–12:40น. รับประทานอาหารกลางวัน
มื้อนี้พิเศษเพราะเป็นเมนูสุกี้เห็ด อร่อยดีมีทั้งเห็ดและเนื้อสัตว์ ถ้าสั่งเพิ่มจะต้องจ่ายเงินเองต่างหาก
🕝14:30–18:00น. สนามบินคุนหมิงฉางสุ่ย
ได้เวลาเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ไกด์ทัวร์พาคณะเราไปส่งที่สนามบินคุนหมิงฉางสุ่ยเร็วหน่อย เพราะจะได้เช็คอินเคาน์เตอร์สายการบินก่อน ไม่ต้องรอนานเนื่องจากมีคณะทัวร์จากไทยอีก 3 กลุ่ม ที่ต้องโดยสารเที่ยวบินนี้กลับประเทศไทยด้วยกัน
ราคาทัวร์ต่อคน
- ค่าแพ็คเกจทัวร์ในเดือนมีนาคม มี 2 ราคา ขึ้นอยู่กับช่วงวันที่เดินทางดังนี้ 14,990 บาท และ 15,990 บาท
- ค่าทิปคนขับรถ หัวหน้าทัวร์ มัคคุเทศก์ท้องถิ่น 1,500 บาท
แสดงความคิดเห็น
0ความคิดเห็น